top of page

สรุปการศึกษาดูงาน

พิพิธภัณฑสถานเครื่องถ้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จังหวัดปทุมธานี

 

 

 ประวัติความเป็นมา

       พิพิธภัณฑสถานเครื่องถ้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดตั้งขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ   ซึ่งอาจารย์สุรัตน์ โอสถานุเคราะห์   ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยได้กรุณามอบศิลปโบราณวัตถุจำนวนกว่า 2,000 รายการ เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ของนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนบุคคลทั่วไปในอนาคต

       ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของพิพิธภัณฑสถานเป็นอาคารชั้นเดียวอยู่ใต้ดิน    รูปแบบคอนกรีตเปลือยซึ่ง เปรียบเหมือนกับเตาเผาโบราณที่ฝังตัวอยู่ใต้ดิน ส่วนเครื่องถ้วยที่จัดแสดงอยู่ภายในห้องจัดแสดงอาจเปรียบ
ได้กับ    ผลิตภัณฑ์ที่ถูกนำเข้าเผาในเตาและความรู้ที่ผู้เข้าชมได้รับจากการเข้าชมก็เปรียบได้กับผลิตภัณฑ์อัน
งดงามที่ได้จากการผลิตนั่นเอง ภายในพิพิธภัณฑสถานมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,872 ตารางเมตร แบ่งออก
เป็นห้องนิทรรศการถาวร  ห้องนิทรรศการพิเศษ คลังพิพิธภัณฑสถานเพื่อการศึกษา สำนักงาน ร้านจำหน่าย
หนังสือและของที่ระลึก และส่วนบริการต่างๆ

 

 

 

                ด้านหน้ามีการจำลองเตาเผา ซึ่งเป็น “เตาประทุนแบบล้านนา” รวบรวมลักษณะของเตาเผาทางภาคเหนือหลายแห่ง แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีพื้นฐานของช่างปั้นภาคเหนือของประเทศไทย สร้างเตาเผาให้ลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศร้อนไหลผ่านไปตามธรรมชาติ จากที่ใส่ไฟที่อยู่ต่ำกว่าไปยังปล่องไฟที่อยู่ตรงข้ามบริเวณปลายสุดของเตา ภายในมีชิ้นส่วนภาชนะ ส่วนใหญ่มาจากเตาเวียงกาหลงทั้งเตา

เตาประทุนแบบล้านนา

ไหรูปช้าง เคลือบสีเขียว

            ไหรูปช้าง ทรงกลม สูง คอแคบและสั้น ขอบปากผายออกเป็นขอบหนา ประดับด้วยศรีษะช้าง มีควาญช้างนั่งบนคอ มีสองหู รอบตัวช้างตกแต่งด้วยวิธีปั้นติดและขูดสลักรูปบุคคลนูนต่ำช่องละสองคน ลักษณะคล้ายฉากภาพเล่าเรื่องการประกอบพิธีกรรมบางอย่าง เท้าของช้างค่อนข้างสั้น น้ำเคลือบสีเขียวอมสีเหลือง ใส และมีรอยราน การเคลือบไม่จรดเท้า เนื้อดินสีน้ำตาลอ่อน

โถลายดอกเบญจมาศ เคลือบสีเขียว

           ตัวโถลึก ปากกว้าง ขอบปากสูงตั้งตรง ไหล่ผาย ก้นสอบ ขอบเชิงหนาและสูง ริมตัดตรง ตกแต่งด้วยวิธีขูดสลักใต้เคลือบ โดยการแบ่งออกเป็นสามส่วน แต่ละส่วนอยู่ระหว่างแนวเส้นวงกลมคู่ขนาน คือ รอบส่วนไหล่ขูดสลักลายกลีบบัว ตอนกลางขูกสลัดลายดอกเบญจมาศก้านขดและเหนือส่วนเชิงเป็นลายกลีบบัวแหลม ก้นมีรอยกี๋รูปแหวนสีดำ น้ำเคลือบสีเขียวมะกอก ค่อนข้างด้าน มีรอยราน เคลือบทั้งด้านในและด้านนอก ด้านในขอบปากปาดน้ำเคลือบออก ส่วนตัวฝาโค้งสูง จุกทำเป็น รูปดอกบัวตูม ด้านในไม่เคลือบ ด้านนอกขูดลายกลีบดอกไม้คล้ายกลับบัว

 

คนทีลายกอหญ้า เขียนลายสีบนเคลือบ

         คนทีทรงกลม คอคอดสูง ตอนบนแบนผาย ปากแคบเป็นขอบเตี้ย พวยเป็นกระเปาะคล้ายเต้านม ปลายเล็กแหลม ตกแต่งด้วยวิธีเขียนลายสีแดงและสีเขียวบนเคลือบลายครามใต้เคลือบ ด้านนอก ขอบปากเขียนลายกลีบดอกไม รอบบ่าเขียนลายกลีบบัวซ้อนกันสองชั้น ตัวคนทีเขียนลายกอหญ้าอยู่ภายในช่องกระจกรูปทับทรวง ซึ่งเขียนท่ามกลางลายคลื่น ใต้พวยเขียนลายเมฆ ไม่มีเชิง ก้นไม่เคลือบ เนื้อดินสีขาวอมสีเทา

จานลายก้านขด เคลือบสีเขียว

         จานปากกว้าง ขอบปากผายออกเป็นขอบหนา ริมเรียบ เชิงเตี้ย ขอบเชิงค่อนข้างหนาและตัดตรง และปาดน้ำเคลือบบริเวณขอบปาก ด้านใน ตัวจานขูดขีดลายก้านขด ก้นจานขูดขีดลายลูกคลื่น น้ำเคลือบสีเหลืองอมสีน้ำตาล ใส มีรอยราน การเคลือบจรดเชิง เนื้อดินสีเทาอมสีน้ำตาล

โถลายจักสาน เคลือบสีเขียว

            ตัวโถลึก ค่อนข้างกลม ปากกว้าง ขอบปากสูงตั้งตรง ไหล่ผาย ก้นสอบ เชิงสูง ขอบเชิงหนา ริมตัดตรง ตกแต่งด้วยวิธีขูดขีดลายใต้เคลือบคล้ายเครื่องจักสาน ก้นมีรอยกี๋รูปแหวนสีดำ น้ำเคลือบสีเขียวมะกอก ใส และมีรอยราน เคลือบทั้งด้านในและด้านนอก มีการปาดน้ำเคลือบบริเวณขอบปาก ส่วนตัวฝาโค้งสูง จุกทำเป็นรูปดอกบัวตูม ด้านในไม่เคลือบ ด้านนอก ตัวฝาขูดขีดลายคล้ายเครื่องจักสานเช่นเดียวกับตัวโถ

รูปยักษ์ เคลือบสีขาว

            รูปยักษ์เคลือบสีขาว แบ่งวิธีการผลิตออกเป็นสองส่วน มือทั้งสองกุมตะบองอยู่ระดับเอว ตาและคิ้วเคลือบสีน้ำตาล สวมกระบังหน้าเครื่องประดับศีรษะเป็นยอดสาม ยอด ยอดกลางทรงกองฟาง ตอนล่างขูดลายเส้นวงกลมคู่สองข้าง ขนาบด้วยยอดแหลมเล็ก มีเครื่องประดับร่างกาย ตอนล่างมีตะบองยาว ปลายทั้งสองยึดติดกับเอวและฐาน ฐานค่อนข้างเป็นเหลี่ยมขรุขระ น้ำเคลือบด้าน ไม่มีรอยราน

หางหงส์รูปมกรคายนาคสามเศียร เคลือบสองสี

         รูปมกรคายนาคสามเศียร ตกแต่งด้วยวิธีขูดสลักและเขียนลายสีน้ำตาล นาคตัวกลางแลบลิ้นออกมาเป็นนาคตัวเล็กๆ ชูคอที่อก นาคทั้งสาม หนวดและจมูกหายไป อ้าปาก แยกเขี้ยว เกล็ดขูดสลักลึก ด้านข้างทั้งสองมีขายื่นออกมาบริเวณท้องเจาะเป็นช่องกลม ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในตัวนาคโปร่ง น้ำเคลือบค่อนข้างมัน มีรอยราน

แผ่นประติมากรรมรูปเหล่าพญามาร ดินเผาเคลือบ

        แผ่นดินเผารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าค่อนข้างหนักและหนา ทำนูนสูงเป็นรูปบุคคลคู่ ศีรษะเป็นช้าง คนทางซ้ายยืนประนมมือ ตัวตะแคงหันหน้าไปทางซ้ายเท้าก้าวคล้ายกับกำลังวิ่ง บุคคลทางขวายืนตรงประนมมือหันหน้าไปทางซ้าย เท้าทั้งคู่หันไปด้านขวา ทั้งคู่นุ่งผ้าสั้นเหนือเข่า ชักชายผ้ารูปหางปลา ตกแต่งลวดลายด้วยลายขูดสลักตื้นๆ เคลือบเฉพาะด้านหน้าด้วย สีเขียวมะกอก ผิวมัน มีรอยราน เนื้อดินสีเทาอมสีน้ำตาล

ข้อปฏิบัติในการเข้าชม

    ผู้เข้าชมควรแต่งกายเรียบร้อย และไม่ควร

1. นำหีบห่อและสิ่งใดๆ ที่อาจบรรจุ ปกคลุม ปิดบัง หรือซ่อนเร้นวัตถุออกไปได้ เข้าไปในห้องจัดแสดง 
2. ก่อความรำคาญด้วยประการใดๆ แก่เจ้าหน้าที่และผู้เข้าชมอื่นๆ
3. สัมผัสหรือจับต้องวัตถุจัดแสดงอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อวัตถุ 
4. ขีด เขียน จารึก หรือทำความสกปรกแก่วัตถุและอาคารสถานที่ 
5. ถ่ายภาพหรือบันทึกภาพก่อนได้รับอนุญาต

 

 ที่ตั้ง

ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต 
9/1 หมู่ 5 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120 
โทร. 0-2902-0299 ต่อ 2890, 2892 โทรสาร. 0-2516-6115
E-mail: museum@bu.ac.th

 

 วันและเวลาเปิดบริการ

เปิด วันอังคาร - วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.   ปิด วันอาทิตย ์- วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

 

 การนำชมหมู่คณะ

การนำชมเป็นหมู่คณะ ต้องนัดหมายล่วงหน้า

 

การบริการ

1. อบรม สัมมนา และบรรยายทางวิชาการ
2. จำหน่ายหนังสือ ของที่ระลึก โปสการ์ด ซีดีรอม และวิดิทัศน์เกี่ยวกับศิลปะ โบราณคดี
3. นำชมเป็นหมู่คณะ กรณีที่มีการนัดหมายล่งหน้า
4. ให้ยืมนิทรรศการหมุนเวียน ภาพถ่าย ซีดีรอม และวิดิทัศน์ ประกอบการสอน
5. ตรวจพิสูจน์ศิลปโบราณวัตถุ (มีค่าใช้จ่าย)

 

 ค่าธรรมเนียมเข้าชม

  • เข้าชมฟรี

 

การเดินทาง

 

  • รถประจำทางสาย 29, 39 และสายรังสิต-ประตูน้ำพระอินทร์ 

  • รถประจำทางปรับอากาศสาย 510, 39 

  • รถตู้ปรับอากาศ สายอนุสาวรีย์ชัยฯ-มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

  • ต่อรถบริการภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ฟรี) 

  • รถแท๊กซี่และรถส่วนตัว (มีที่จอดรถสะดวก) บริเวณลานจอดรถ 5

แผนที่

ประมวลภาพ

© 2023 by Dawkins & Dodger Architecture. Proudly created with Wix.com

  • facebook
  • Twitter Round
  • googleplus
  • flickr
bottom of page